วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

7 กลยุทธ์สู่ความมั่งคั่งและความสุข โดย Jim Rohn

7 กลยุทธ์สู่ความมั่งคั่งและความสุข

กลยุทธ์ที่ 1 : ปลดปล่อยอำนาจของเป้าหมาย
เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของทั้ง 7 กลยุทธ์นี้ หากคุณไม่เคยทำลิสต์รายการเป้าหมายของคุณ นั่นหมายถึงเงินในบัญชีของคุณก็จะไม่มีเช่นกัน เพราะการตั้งเป้าหมายมีผลอย่างลึกซึ่งต่อทุกด้านในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ รายได้ เงินในบัญชีธนาคาร วิถีทางดำเนินชีวิต บุคลิกภาพ “เปลี่ยนแปลงเงินในบัญชีของคุณโดยเริ่มจากการตั้งเป้าหมาย” เป้าหมายคือ สิ่งที่ครอบงำอยู่ในจิตใจไปตลอดชีวิต .. พัฒนาอยู่เสมอ ปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ .. ฉะนั้นการตั้งเป้าหมายเป็นการบ้านที่เราต้องทำมันไปตลอดชีวิต

กลยุทธ์ที่ 2 : แสวงหาความรู้
หนึ่งในกลยุทธ์พื้นฐานของการดำเนินชีวิตที่ดีคือ การรู้ว่า ข้อมูลอะไรที่เราจำเป็นต้องรู้เพื่อที่จะบรรลุจุดมุ่งหมายของเรา และทันทีที่เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้แล้ว มันจะมีส่วนช่วยให้รู้วิธีเริ่มปฏิบัติในการรวบรวมความรู้นั้นด้วย

“ถ้าคุณปราถนาที่จะประสบความสำเร็จ จงศึกษาความสำเร็จ ถ้าคุณปรารถนาที่จะมีความสุข จงศึกษาความสุข ถ้าคุณต้องการหาเงิน จงศึกษาการได้มาซึ่งความมั่งคั่ง คนซึ่งบรรลุสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ไม่ได้ทำมันด้วยความบังเอิญ มันเป็นเรื่องของการศึกษาเป็นลำดับแรก และการฝึกฝนเป็นลำดับต่อมา”

2 วิธีที่จะรวบรวมความฉลาด วิธีที่หนึ่งคือ การเรียนรู้จากชีวิตของคุณเอง วิธีที่สองคือ การศึกษาจากชีวิตของคนอื่น

กลยุทธ์ที่ 3 : เรียนรู้วิธีเปลี่ยนแปลง
“เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะใช้ความพยายามกับตัวเราเองให้หนักกว่าที่เราใช้กับงานของเรา” หมายถึง เราจำเป็นที่จะต้องพัฒนาส่วนตัว นั่นคือการพัฒนาคุณค่าในตัวคุณ ไม่ว่าคุณจะทำงานหนักเพียงไร หากคุณค่าในตัวคุณไม่ได้ถูกพัฒนา รายได้ของคุณก็ไม่อาจพัฒนาเช่นกัน

เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ เราต้องทำทุกอย่างเพื่อทำลายข้อจำกัดที่สร้างให้กับตัวเองที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาส่วนตัวของเรา ข้อจำกำจัดที่ว่าก็คือ

การผัดวันประกันพรุ่ง
กล่าวโทษผู้อื่นแทนที่จะกล่าวโทษตัวเอง
การแก้ตัว
เมื่อคุณสามารถขจัดข้อจำกัดทั้งหลายออกแล้ว คุณจะได้พบกับความน่าที่งในตัวคุณเอง ต้องยอมรับความจริงว่า “คุณน่าทึ่ง” เอื่อมลงไปภายในตัวคุณ แล้วนำเอาพรสวรรค์ที่น่าทึ่งของคุณออกมาให้มากขึ้น มันอยูที่นั้น รอคอยที่จะถูกค้นพบและถูกใช้ให้เป็นประโยชน์ “คุณสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้นเมื่อคุณเปลี่ยนแปลงตัวของคุณให้ดีขึ้น“

กลยุทธ์ที่ 4 : ควบคุมการเงินของคุณ
คุณจำเป็นต้องเรียนรู้กฎ 70/30 หมายถึงอะไร กฎ 70/30 หมายถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของเงินรายได้หลังหักภาษี เป็นเงินที่คุณจะใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นและสิ่งฟุ่มเฟือย แล้วอีก 30 เปอร์เซ็นต์เราจะมาจัดสรรตามนี้ค่ะ 10% สำหรับการกุศล, 10% สำหรับการลงทุน (เป็นเงินที่คุณจะใช้มันสร้างความมั่งคั่งให้กับคุณ) และอีก 10% สุดท้ายสำหรับการเก็บเงิน (เป็นเงินออมนั่นเอง)

กลยุทธ์ที่ 5 : ควบคุมเวลา
“เรามีเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงนี้เป็นประจำทุกวันที่จะใช้ชีวิต เวลาเป็นของคุณ ไม่มีใครสามารถเอามันไปจากคุณได้ มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถฉกฉวยไปได้ และไม่มีใครได้รับมากกว่าหรือน้อยกว่าที่คุณได้รับ” เวลาคือสิ่งที่มีประโยชน์อันมีค่าสูงสุดที่เรามี ฉะนั้น วิธีที่เราบริหารจัดการเวลา จึงมีผลอย่างมากที่สุดต่่อชีวิตเราว่าจะปรากฏผลออกมาอย่างไร

กลยุทธ์ที่ 6 : แวดล้อมตัวคุณด้วยผู้สำเร็จ
คุณทราบมั้ยว่า อิทธิพลของคนที่อยู่รอบตัวเรามีพลังอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ ถ้าคุณอยู่รอบข้างคนที่คิดลบ ตัวคุณก็จะมีทัศนคติลบ ถ้าคุณอยู่กับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย คุณก็จะเป็นคนใช้เงินโดยขาดความยั้งคิด นั่นหมายถึงคุณจะถูกหล่อหลอมให้คุณเป็นเหมือนคนรอบข้างคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลาไปกับกลุ่มคนที่ไม่เหมาะสม คุณจำเป็นต้องถามตัวคุณเองด้วยคำถามเบื้องต้นสามข้อดังนี้

ฉันใช้เวลากับใคร?
พวกเขากำลังทำอะไรกับฉัน?
การคบหาสมาคมนี้ดีกับฉันหรือไม่?
อย่าละเลยคำถามเหล่านี้ ตรวจสอบเวลาที่คุณใช้ไปกับการสมาคมส่วนใหญ่แต่ละครั้งของคุณว่า มันเป็นเชิงบวกและสร้างสรรค์ หรือเป็นเชิงลบและทำลาย?

คนที่ประสบความสำเร็จจะแสวงหาคนที่พวกเขายกย่องชื่นชม พวกเขาเข้าใจว่า แรงบันดาลใจและความรู้สามารถได้มาจากแบบอย่างของการสมาคมที่เหมาะสม

กลยุทธ์ที่ 7 : เรียนรู้ศิลปะของการดำเนิชีวิตที่ดี
“อย่าเพียงแค่เรียนรู้วิธีหาเงิน จงเรียนรู้วิธีดำเนินชีวิตด้วย!” และนี่คือความคิดที่สำคัญอย่างหนึ่ง จงมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี ในขณะที่แสวงหาสิ่งที่คุณต้องการ การเรียนรู้ศิลปะการดำเนินชีวิต ถึงแม้ว่ามีข้อจำกัดทางการเงินก็สามารถได้รับประสบการณ์ของวิธีดำเนินชีวิตที่สวยงามได้เช่นกัน หากเพียงแต่วันนี้เราเก็บสะสมเงินที่ใช้จ่ายไปกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ เพื่อซื้อสิ่งพิเศษให้กับตัวเอง อย่าใช้เงินหนึ่งในสี่ส่วนของเงินทั้งหมดให้หมดไปทันที

วิธีดำเนินชีวิตในที่นี้หมายถึง เรื่องของการรับรู้ คุณค่า การศึกษา และรสนิยมที่ได้มาจากการศึกษาหาความรู้ มันคือศิลปะซึ่งนำความสุขมาให้ในขณะที่มันถูกฝึกฝน มันคือการตัดสินใจอย่างรอบคอบที่จะลิ้มลอง และสนุกสนานกับประสบการณ์และโอกาสที่อาจเป็นไปได้ทั้งหมดของชีวิต

จงคิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่คุณสามารถทำในวันนี้ที่จะทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นและรู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับตัวคุณเองและชีวิตของคุณ