วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

มีฝีมือแพ้โชค แต่โชคแพ้ความพยายาม

น้า: ทำไมถึงอยากเป็นนักเรียนนายร้อย?
ต้น: อยากเป็นลูกศิษย์พระเทพฯครับ
น้า: มันยากนะ เส้นสายก็ไม่มี จะเอาอะไรไปสู้เขา?
ต้น: เส้นสายไม่ต้องใช้ครับ เตรียมตัวให้ดีก็สู้ได้
น้า: อย่าหวังสูงนัก เดี๋ยวมันจะผิดหวัง!

เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้ล่ะครับ...ท่านผู้ชม...
ถ้าวันนั้น...ผมให้ค่ากับคำพูดประโยคนั้น...
ผมอาจไม่ได้รับโอกาสดีในชีวิตอย่างวันนี้!

ถ้าบางเรื่องคุยกันไม่รู้เรื่อง...
ก็ไม่ต้องคุยครับ!เสียเวลา!
ทำผลลัพธ์ให้เป็นที่ประจักษ์สิครับ

จะงานใหญ่งานเล็ก...
ผมเชื่อในการฝึกฝน และการเตรียมการครับ...
เพราะนี่คือสิ่งที่เราควบคุมได้...
เรื่องอื่นนอกจากนั้นเป็นได้แค่ตัวช่วย!

เมื่ออายุ 15 ผมได้รู้จักกฎ" 80/20"...
จากวารสารของโรงเรียนแห่งหนึ่ง...
กฎนี้บอกว่า...
"ผลลัพธ์ 80% มาจากผลงาน 20%"
ตอนนั้นผมไม่เข้าใจกฎนี้หรอก

แต่ผมก็เทียบตัวเลขเลย...
คนสอบปีละ 10,000 คน
จะมีคนตั้งใจมาสอบ 2,000 คน

คนตั้งใจมาสอบ 2,000 คน
จะมีคนเตรียมตัวมาสอบ 400 คน

คนที่เตรียมตัวมาสอบ 400 คน
จะเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นจริงๆ 80 คน

ผมแค่ทำตัวเองให้อยู่ในกลุ่ม 80 คนนี้ให้ได้...
ผมก็สอบติดได้แน่นอน!

ผมสร้างภาพความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้น
แล้ววิธีการมันก็ตามมาครับ!
หลังจากนั้นผมเตรียมตัวอยากหนัก 2 ปี...
แล้วผมก็ทำได้สำเร็จดังหวัง!

คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าจะทำได้ดีแค่ไหน...
ถ้าคุณยังไม่ได้เริ่มต้นลงมือทำ!

บางอย่างที่คุณอยากทำแม้ไกลสุดฝัน...
หากคุณหาเหตุผลของความเป็นไปได้เจอ
คุณจะมีความกล้าหาญมากขึ้น...
แล้วลงมือทำ!

ความเก่ง...เกิดขึ้นได้ด้วยการฝึกฝน...
ความกล้า...เกิดขึ้นได้ด้วยการเตรียมพร้อม...
แต่ชัยชนะ...เกิดขึ้นได้ด้วยการลงมือทำ!

มีฝีมือ...ก็ยังแพ้โชค...
แต่โชค...แพ้สันดานของผู้ชนะ!

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ศรัทธาอยู่ที่ใจ ใช่ตำแหน่ง!

ภาวะผู้นำ...เกิดที่ใจ...ไม่ใช่ตำแหน่ง...

ตำแหน่ง...เป็นเพียงสถานการณ์บังคับ...
ให้ต้องใช้ภาวะผู้นำ!

คนที่มีภาวะผู้นำ...แม้ไม่มีตำแหน่ง...
เขาก็แสดงออกถึงภาวะผู้นำโดยธรรมชาติ

แต่คนบางคนทั้งชาติ...แม้มีตำแหน่ง...
ก็ไม่อาจแสดงภาวะผู้นำ...

ไม่เคยมีใครให้นิยาม"ภาวะผู้นำ"ได้ชัดเจน
แม้กูรูด้านการเป็นผู้นำ ก็ยังให้นิยามที่แตกต่าง

สำหรับผม...
ผู้นำที่ยอดเยี่ยม คือ...
ผู้ที่กล้ารับผิดชอบต่อผลลัพธ์แบบ 100%

การยิ้มร่ารับบำเหน็จรางวัล...
ไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถ...

แต่การยืดอกรับความผิดพลาด...
มันกลับเป็นความชอกช้ำขมขื่น...

ผู้นำ...มีหน้าที่นำ...เพื่อให้งานสำเร็จ!

เมื่อคุณมอบหมายงาน...
เท่ากับคุณมีความเชื่อมั่นในตัวเขา...
คุณควรไว้วางใจให้เขาได้ทำหน้าที่ของเขา
ภายใต้การกำกับดูแลของคุณ!

เพราะการกำกับดูแลคือหน้าที่ของผู้นำ

ความสำเร็จจะเกิด...
ก็ตอนคุณรับผิดชอบจะทำให้เกิดนั่นแหละ!

การรับชอบ...เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ...
และการรับผิด...ก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม...

ในฐานะผู้นำ...
การแสดงความรับผิดชอบแบบ100%...
คุณได้สร้างศรัทธาในใจคนแล้วครับ...

แม้ไม่มี"ตำแหน่ง"...
การรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ในชีวิตของคุณแบบ100%...จะทำให้คุณรู้สึกดีทันที...
เพราะคุณคือผู้นำทางชีวิตของคุณเอง...

"ผู้นำ"...คือคุณค่าที่คุณคู่ควร...

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

หาคำตอบไม่ได้ หรือเพราะคำถามยังไม่โดน!

คงมีหลายคำถามที่เกิดขึ้นในชีวิต...
แล้วคุณยังไม่เคยแสวงหาคำตอบอย่างจริงจัง!

บางที นั่นอาจเป็นเพราะว่า...
มันไม่ใช่คำถาม ที่มีความสำคัญต่อชีวิตคุณ!

"ทำอย่างไร คุณถึงจะหาเงินสด 2 ล้านได้ ภายใน 2 วัน?"
ถ้าคุณไม่ใช่คนที่หาเงินล้านได้เป็นกิจวัตร...
ผ่านไป 1 ปี คุณอาจจะยังไม่ได้พบเงินล้านก้อนนั้น

"ทำอย่างไร คุณถึงจะหาเงินสด 2 ล้านได้ ภายในวันพรุ่งนี้ เพื่อรักษาชีวิตคนที่คุณรักที่สุดเอาไว้ เมื่อในวันนี้ เขาได้ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง?"
แม้คุณเป็นคนหาเช้ากินค่ำ ผมเชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน คุณจะพบคำตอบของตัวเอง!

คำถามพื้นๆ มักจะได้คำตอบพื้นๆ
แต่คำถามที่เจาะจง ก็จะได้คำตอบที่เจาะจง

คำตอบที่ไม่ธรรมดา เกิดจากมุมมอง ที่ไม่ธรรมดา

บางครั้ง เราก็ได้"คำตอบ" ก่อนที่จะเกิด"คำถาม"
คำตอบประเภทนี้ เราเรียกว่า "วิสัยทัศน์"

คำถามที่เกิดหลังคำตอบ...
ก็เหมือนกับการที่คุณ วางแผนเดินทางย้อนหลัง!

จากที่คุณเคยเริ่มต้นว่า...
"จะเดินทางจากกรุงเทพ ไปเชียงใหม่อย่างไร?"

แทนที่ด้วยคำถามว่า...
"ปลายทางที่ต้องการคือ เชียงใหม่ แล้วเราจะไปถึงที่นั่นได้อย่างไร?"

ในเส้นทางชีวิต คุณไม่ได้มองเห็นเส้นทางยาวไกลนักหรอกครับ
แต่กลับมองเห็นชัดเจน เป็นห้วงระยะสั้นๆ แค่ระยะสายตา
บางที ก็เห็นเลือนลางเต็มที เพราะม่านหมอกควัน

แต่อย่าลืมว่า การเดินทางกลางคืน คุณจะเห็นระยะทางสั้นลงมาก
ไกลมากเท่าที่ไปหน้ารถส่องถึง

แต่การขับคลำทางไป อย่างรู้จุดหมาย
แม้จะมองเห็นเพียงทางระยะสั้นๆ ที่ค่อยๆปรากฏขึ้นมา
ก็สามารถทำให้คุณไปถึงที่หมายได้เช่นเดียวกัน

คำถาม ที่ไม่ได้คำตอบ เพราะมันไม่สำคัญต่อชีวิตคุณ...
แต่ "คำตอบ" มีอยู่พร้อม สำหรับทุกคำถาม!

ขอให้คุณ ได้เจอ "คำตอบ" ที่คุณต้องการ

สูตร 1000% เก่งขึ้น 10เท่า คุณทำได้!

สูตร 1000% โดยไบรอัน เทรซี...
มีพื้นฐานอยู่บนข้อค้นพบที่ว่า...
การเพิ่มทำให้ตัวเองเก่งขึ้น 10เท่า ใน10ปีข้างหน้า...
เป็นสิ่งที่เป็นไปได้...

สูตรนี้ง่ายมากครับ...
ปฏิบัติตามขั้นตอนเพียง 7ขั้นตอน...
ทุกๆวัน...ทุกๆสัปดาห์...และทุกๆปี...
คุณจะเพิ่มผลิตภาพ...ผลการปฏิบัติงาน...
ผลผลิต...รายได้และความสำเร็จ...
ได้ 1ใน 10 ของ 1% ทุกๆวัน...

ขั้นตอนที่ 1
ตื่นนอนเร็วกว่าเดิมเล็กน้อย...
ใช้เวลาตอนเช้า 30-60นาที อ่านสิ่งที่ให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อเตรียมจิตใจ และตั้งหางเสือของวันนั้น...

ขั้นตอนที่ 2
เขียนเป้าหมายหลักของคุณ... ใส่สมุดบันทึกทุกวัน... ใช้ถ้อยคำที่เป็นปัจจุบันราวกับมันเป็นความจริงแล้ว... เพื่อโปรแกรมจิต และระบบสั่งการของคุณตลอดทั้งวัน...

ขั้นตอนที่ 3
ใช้เวลากลางคืน... ในการวางแผนแต่ละวันของสิ่งที่จะทำล่วงหน้า... เขียนรายละเอียดทุกๆสิ่งที่จะต้องทำในวันรุ่งขึ้นก่อนเข้านอน...

ขั้นตอนที่ 4
จัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่คุณวางแผนจะทำ... และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ กับสิ่งที่ใช้เวลาของคุณได้อย่างมีคุณค่าสูงสุด...

ขั้นตอนที่ 5
เปลี่ยนเวลาในการเดินทางให้เป็นมหาวิทยาลัยเคลื่อนที่... อย่าเดินทางโดยปราศจากสื่อเผยแพร่ความรู้...

ขั้นตอนที่ 6
หลังประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลว ให้ถามตัวเองว่า
1.สิ่งที่ฉันทำได้ถูกต้องคืออะไร??
2.มีสิ่งใดบ้างที่ฉันจะทำให้แตกต่างไปจากที่เคยทำ??

ขั้นตอนที่ 7
ปฏิบัติกับทุกคนราวกับคนสำคัญ... ราวกับคนที่จะนำเงินล้านมาให้คุณ...

การปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นวันละ 1 ใน 1000 ส่วน... คงไม่ยากเกินไปใช่ไหมครับ??

วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2558

งาน...ด่วน! เพราะได้รับความสำคัญ

ในห้อง Lecture แห่งหนึ่ง...
อาจารย์คนหนึ่งกล่าวว่า...
"ผมจะแสดงทุกสิ่งทุกอย่าง เกี่ยวกับการจัดการเวลา ให้คุณเห็นภายใน 2 นาที"

เขานำเหยือกใสขึ้นมาใบหนึ่ง...
แล้วใส่หินก้อนใหญ่ลงไปจนเต็ม...
แล้วเขาก็เอาก้อนกรวดใส่ลงไป...
ตามด้วยทรายละเอียด แล้วเขย่าให้รวมกัน...
สุดท้าย เขาก็เทน้ำลงไปในเหยือกจนเต็ม!

และนั่นคือวิธีการ...
ที่เขาสามารถนำทุกสิ่ง ใส่ลงไปในเหยือกใบนั้น...

คุณจะไม่สามารถนำทั้งหมดนั้นใส่ลงไปได้เลย...
ถ้าหากว่าคุณทำกลับกัน...

ถ้าเหยือกคือเวลาชีวิตที่คุณได้รับ...
เรามีเวลา 24 ชม.เท่ากันทุกวัน...
คุณจัดลำดับกิจกรรมของคุณลงในเหยือกอย่างไร?

หินก้อนใหญ่เปรียบดั่งเรื่องสำคัญที่สุด...
ที่คุณจำเป็นต้องทำในแต่ละวัน...

โชคร้ายที่ในชีวิตจริง...
หากคุณไม่ได้ใส่หินก้อนใหญ่ลงไป...
มันก็จะมีเศษหินเศษกรวดเล็กๆ...
ไหลหล่นเข้าไปในเหยือกของคุณ...
แม้ว่าคุณจะไม่ได้ต้องการมันก็ตาม...

รู้ตัวอีกทีว่าคุณมีหินก้อนใหญ่ที่ต้องใส่ลงไป
มันก็อาจจะสายจนเกินไปแล้วก็ได้!

เพราะตอนนี้เหยือกของคุณ...
มันเต็มไปด้วยก้อนกรวดทรายเล็กๆไปแล้ว!

แล้วเราจะทำอย่างไร...
เมื่องานอะไรๆก็ดูเป็นเรื่องด่วน และสำคัญไปหมด?

สตีเฟน โควีย์ กล่าวไว้ว่า...
ให้คุณแบ่งงานออกเป็น 4 ประเภท
1.งานด่วน และสำคัญ
2.งานด่วน แต่ไม่สำคัญ
3.งานสำคัญ แต่ไม่ด่วน
4.งานไม่สำคัญ และไม่ด่วน

งานที่คุณควรให้ความสำคัญที่สุด คือ...
งานสำคัญ ที่ไม่ด่วน!

งานประเภทนี้ มีความสำคัญ...
แต่คุณมักเลือกที่จะไม่ใส่ใจเพราะ...
คิดว่า"ยังมีเวลา"...

ถ้าคุณไม่ใส่ใจทำให้ดีตั้งแต่ต้น...
รู้ตัวอีกที มันก็เป็นงานด่วนไปแล้ว...

และงานด่วนที่คุณทำ มันมักจะ...
เป็นงานที่ทำแบบขอไปที...
เพราะคุณไม่มีเวลาเอาใจใส่กับมัน...

บางทีงานด่วน...ที่คุณคิดว่าสำคัญ...
อาจเป็นเพราะคุณไม่เคยให้ความสำคัญ...
กับมันมาก่อนเลยก็ได้!

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

ก้าวข้ามความสามารถของตนเอง

ในวัยเด็ก...
ผมชอบยืนเทียบความสูงกับพ่อ...
แล้วผมก็มีความสุขทุกครั้งที่รู้ว่า...
เรากำลังเติบโตขึ้น!

วันนี้...
ลูกชอบยืนเทียบความสูงกับผม...
แล้วผมก็มีความสุขทุกครั้งที่เห็นว่า...
เขากำลังเติบโต!

เราทุกคนต่างก็มีฮีโร่ของตัวเอง...
การได้เดินตามรอยฮีโร่...
มันเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ!น่าดึงดูด!

มีคนกล่าวว่า...
คนเก่ง...เรียนรู้จากตัวเอง...
คนเก่งกว่า...เรียนรู้จากผู้อื่น...
คนเก่งที่สุด...เรียนรู้จากผู้สำเร็จ...

โชคดีครับ...
ที่วันนี้คุณสามารถหาบุคคลต้นแบบ...
ที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้คุณ...
ได้ทุกแบบที่คุณต้องการ...

วันนั้น...
ผมคงไม่รู้ตัวว่าได้สูงเกินพ่อแล้ว...
ถ้าหากไม่หมั่นวัดผล...

การเดินตามรอยเท้าคนอื่น...
จึงไม่ได้สำคัญไปกว่า...
การที่คุณก้าวข้ามความสามารถของตนเอง!

วันนี้คุณก้าวเลยจุดเริ่มต้นมาแล้วแค่ไหน?
คุณเดินอยู่บนเส้นทางที่ต้องการหรือเปล่า?

ลองเทียบกับฮีโร่ของคุณดูสิครับ!

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

จิตที่แจ่มใส ย่อมอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์

ผมเคยใช้งานคอมพิวเตอร์เก่าๆมาหลายตัว...
แม้กระทั่งโน้ตบุ๊คที่ใช้ปัจจุบัน ก็มีอายุร่วม 7 ปีแล้ว

การเห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยี
ทำให้ผมมองเห็นสัจธรรมบางอย่าง

คอมแรง + ระบบยอด = อัจฉริยะ
คอมแรง + ระบบห่วย = ลงระบบไม่ได้
คอมห่วย + ระบบยอด = อืดอาด
คอมห่วย + ระบบห่วย = เตรียมทิ้ง
คอมแรง + ไวรัสยอด  = เตรียมพัง

ไม่ว่าระบบปฏิบัติการจะยอดแค่ไหน
แต่สเป๊คคอมต่ำ มันก็ได้แค่พอใช้งาน

แต่ถ้าสเป๊คคอมสูงลิบ ศักยภาพขั้นเทพ
มันก็จำเป็นต้องลงระบบปฏิบัติการชั้นยอด
เพราะซอฟแวร์รุ่นเก่า มันตามไม่ทันแล้ว

ฮาร์ดแวร์ เปรียบเสมือนร่างกาย
ซอฟแวร์ เปรียบเสมือนสมอง

ถ้าคุณอยากได้สมองที่ดี
คุณต้องมีร่างกายที่พร้อม

ถ้าร่างกายของคุณไม่พร้อม
คุณก็คงไม่มีความพร้อม ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร

บางครั้ง สมองอาจจะแย่บ้าง
แต่ร่างกายที่ดี จะพร้อมให้สมอง กลับมาสดได้เสมอ
เหมือนกับที่คุณอัพเกรด ซอฟแวร์นั่นล่ะ

แต่ถึงแม้ว่าคอมพิวเตอร์ จะมีศักยภาพเปี่ยมล้น
มันก็ไม่สามารถทำงานได้ ถ้าหากไม่มีคนป้อนคำสั่ง

ร่างกายคุณ ก็เช่นกัน ไม่มีทางเริ่มงาน ถ้าสมองไม่สั่งการ
ความคิดที่กลั่นออกมาจากสมอง เริ่มต้นมาจากจิตของคุณ

พึงรักษากาย เพื่อให้กาย รักษาความคิด
พึงควบคุมความคิด เพื่อให้ความคิด เป็นที่ตั้งมั่นของจิต

จิตที่มีความด่างพร้อย ไม่ต่างจากซอฟแวร์ ที่โดนไวรัส

รักษาพลังกายของคุณให้ดี
เพราะกาย คือฐานที่มั่นคงแข็งแรงที่สุด สำหรับความคิดและจิตของคุณ

จิตที่แจ่มใส ย่อมอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์